250 GTO chassis 3445GT ของ Ulf Norinder พุ่งทะยานผ่านผู้ชมชาวซิซิลีและผู้ชมที่ยืนอยู่ข้างถนนเข้าเป็นที่เก้าในการแข่งขัน Targa Florio ปี 1964
ที่ Automobilist สตูดิโอในกรุงPrague, เหล่าช่างภาพและพ่อมดคอมพิวเตอร์ร่วมกันร่ายมนตร์เสกสร้างช่วงเวลาที่ไม่เคยปรากฏแก่สายตาของประวัติศาสตร์การแข่งรถมาก่อน ในช่วงเปลี่ยนผ่านของเดือน มีนาคม–เมษายน ปี 1964 ซึ่ง Targa Florio ครั้งที่ 48 นั้นใกล้เข้ามา, หัวข้อของการพูดคุยกันในร้านเหล้าทั่ว Sicily มีอยู่ 2 เรื่องหลักๆเท่านั้นคือ การตัดสินใจไม่เข้าร่วมการแข่งขันของ Enzo Ferrari และความหมายมาดในการเอาชัยชนะมาครองของ Carroll Shelby Enzo ผู้ไม่ลงรอยกับทั้ง FIA และ รัฐบาลอิตาลีในเวลานั้น (รัฐบาลเป็นหนี้เขาอยู่มากกว่า สองร้อยล้านลีร์ในโครงการออกแบบเพื่อสนับสนุนการส่งออก) แต่เขาก็เลือกที่จะไม่เข้าร่วมในรายการ Targa Florio ด้วยเหตุผลที่โน้มเอียงไปทางความเป็นจริงมากกว่าเหตุผลทั้งหลายแหล่ทางการเมือง
ระยะทาง 72 กิโลเมตรบนพื้นผิวถนนที่มีสภาพย่ำแย่ทำให้แม้รถที่เตรียมการรับมือมาอย่างดีที่สุดเสียหายอยู่ เป็นประจำ อีกทั้งฤดูกาลของ Formula 1 และ 24 Hours of Le Man ก็ใกล้เข้ามา ช่างเครื่องที่ Maranello ต่างทำงานกันอย่างหนักซึ่งพวกขำม่สามารถจะสูญเสียสมาธิได้เลยแม้แต่น้อย
จากการที่ได้เคยลงแข่งใน Targa Florio ด้วยตัวเองมาแล้ว เมื่อปี 1955( ในรถ Ferrari ) Carroll Shelby ได้ตะหนักถึงส่วนแบ่งทางการตลาดของแต่ละปี ดังนั้นเขาจึงเลือก Cobras รถอเมริกันซึ่งเข้ามาฉกฉวยโอกาสจากสายตาของผู้ชม เสริมด้วยทัพของ Porsche การกลับเป็นไปว่าในวันชิงชัย ผู้ชมพบว่าพวกเขาต้องมนตร์ของการปรากฏตัวอย่างสุดอาจองของ Ferrari 250 GTO สีฟ้า–เหลืองของธงชาติสวีเดน และ car 112 รถที่คนต้องเหลียวหลังกลับไปมอง แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางยนตร์กรรมเพื่อการลงแข่งชั้นเลิศ ซึ่งทำให้เจ้าของพลอยเป็นที่ถูกจับตาไปด้วย
จากภาพสเก๊ตช์ด้วยมือ ทีมเริ่มโครงร่างของหลักก่อนที่จะมีตัวประกอบเข้ามาร่วมด้วย เมื่อได้ส่วนประกอบหลัก ทีมเทคนิคของ Automobilist CGI จะจัดวางองค์ประกอบของ final image ซึ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ไม่ให้เป็นดูเหมือนเป็นภาพที่นำมาประกอบกัน
ไม่ต้องบอกจากลักษณะของการไว้หนวดแหลมรุงรังซึ่งทำให้เขาเป็นที่จดจำได้ในภายหลัง Ulf Norinder ก็เป็นคนแปลกสุดโต่งอยู่แล้วด้วยการมีนิสัยชอบสิ่งสู่ตามงานปาร์ตี้กับชอบขับรถเร็วท้ามฤตยู
เขาเกิดในครอบครัวที่มีฐานะขึ้นมาจากการขายของหวานขบเคี้ยวชนิดหนึ่งซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้าย รถยนตร์ รู้จักกันในชื่อว่า Ahlgrens bilar sweets. Norinder มีเงินมากพอที่จะจัดงานปาร์ตี้ติดต่อกันทั้งสัปดาห์และซื้อรถยนตร์ชนิดใดก็ได้ที่เขาคลั่งไคล้ รถที่อยู่ในหมู่ของเล่นของเขาคือ Mercedes-Benz 300SL, Lola T70, McLaren M18,and Porsche อีกหลายคันรวมถึง 550 Spyder, 718 RSK และ 906.
ถ้าไม่เมาค้างจากงานปาร์ตี้ข้ามคืนหรือข้ามสัปดาห์ เขาก็จะลงแข่งรถบ้างเล็กน้อย เขาและคู่หูชาวสวีเดน Picko Troberg ขับ 250 GTOของเขาลง Targa Florio ด้วยจิตวิญญานของชายผู้ไม่หวั่นต่อตัวเลขในบิลแจ้งราคาค่าความเสียหาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้นำในการแข่งขันเลยแม้แต่น้อย (นั่นก็คือ Porsche 904 สองคันที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่หนึ่งและสอง แต่ในระหว่างทางที่พวกเขาเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่เก้า ชายชาวสวีเดนทำให้ชาวซิซิลี่ซึ่งเป็นแฟนของรถ Ferrari ส่งเสียงเชียร์พวกเขา เมื่อพุ่งทะยานไปตามถนนในชนบทหรือตามถนนแคบๆด้วยความหรรษา และแลเห็นสีสดใสของรถนั้นรางๆ
JAN RAMBOUSEK และทีมของเขามีความสนใจใน GTO, chassis 3445GT ของ Norinder เมื่อมาทำการใคร่ครวญดูจาก Targa Florio “มันแตกต่างจากรถอื่นๆและเป็นรถที่งามที่สุดที่เคยพบมาทีเดียว” เขากล่าวชม ในมุมมองในโลกศิลปยานยนตร์ คุณจะไม่เพียงเลือกสิ่งที่คุณถูกใจขึ้นมาแล้วเริ่มทำงานเกี่ยวกับมันเท่านั้น
ที่สตูดิโอใน Prague ของเขา , Automobilist, ทำงานในลักษณะที่งาน ศิลปะ, การถ่ายภาพ และภาพที่คอมพิวเตอร์รังสรรค์ขึ้นถูกนำผสมผสานกัน สร้างสรรค์รายละเอียดอันน่าพิศวงจากช่วงเวลาในอดีตซึ่งเล็ดลอดจากการจับภาพของเลนส์ หรือไม่ก็นำมันมาแสดงในมุมที่ไม่ประสบความสำเร็จในการนำเสนอได้ในช่วงเวลานั้น งานของ Automobilist แต่ละชิ้นแสดงให้เห็นถึงการทุ่มเทอย่างมหาศาลทั้งในเรื่องของเวลา(ซึ่งนานนับแรมเดือน และเงินทุน( นับหลายหมื่นยูโรทุ่มเทกับบุคคลากรและการผลิตงาน) ก้าวแรกของขั้นตอนที่ยาวนานและแพงระยับคือการทำการศึกษารายละเอียด นั่นรวมถึงการลงแบบร่างมือแบบเก่าๆและที่สำคัญคือการทำการค้นคว้าอย่างมากมาย ทีมงานสืบค้นลึกลงไปท่ามกลางเอกสารมากมาย, video footage และเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ในช่วงเวลานั้นเพื่อสร้างภาพที่ถูกต้องแม่นยำ จากสภาพของอากาศจนกระทั่งถึงฝุ่นโคลนที่เกาะอยู่บนตัวรถ พยานที่มีส่วนในเหตุการณ์เหล่านั้นถูกเสาะหาตัวและสอบถามหากยังพอมีความเป็นไปได้ “ มันเหมือนกับว่าเรากำลังเป็นนักสืบ” Jan กล่าว
“ รถหลายคนที่อยู่ในโปรเจคของเรายังคงสภาพอยู่ และบางครั้งเราก็มีโอกาสได้สำรวจตรวจตรามันจริงๆซึ่งเป็นประโยชน์มาก แต่ archive material เท่านั้นสามารถบอกเราได้อย่างถูกต้องแน่นอนว่า รถหรือพาหนะคันนั้นมีรูปลักษณ์อย่างไรในช่วงวันและเวลาเหล่านั้น”
เมื่อใดที่ concept เป็นที่ตกลงกันแล้ว รูปจำลอง digital 3D ก็ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ข้อมูลจากทุกแหล่งที่สามารถหามาได้ พวก creative ที่มักจะคิดชิ้นงานไม่ค่อยออกจะเข้าใจได้โดยทันทีว่า Jan หมายความถึงอะไรเมื่อเขาพูดว่าสิ่งที่ยากที่สุดคือการสร้างจุดเริ่มต้นรูปจำลอง 3D
“เมื่อสิ่งอ้างอิงของคุณเป็นเพียง, เอาเป็นว่า, พิมพ์เขียวอายุหนึ่งร้อยปี 2 แผ่น, รูปด้านข้างและด้านหน้าที่ถูกวาดโดยดินสอ, ภาพมัวๆอีก 2-3 ภาพ สร้างขึ้นป็นโครงสร้างพื้นฐานของรถสักคันในรูปแบบ 3D นั้นมันยากเย็น เราติดต่อกันกับผู้ผลิตซึ่งสามารถในรายละเอียดเพิ่มเติมแก่เราเพื่อช่วยให้งานนั้นเดินต่อไปได้”
แบบจำลองถูกทำให้มีองค์ประกอบและแสงเงาจากความเข้าใจที่ได้มาจากการใช้เวลามากมายในการศึกษารูปภาพเก่าๆ และเรื่องของแสงก็ถูกนำมาใช้ให้สะท้อนวันซึ่งผ่านมายาวนานแล้ว มันเป็นงานที่ต้องยิ่งใช้ความอุตสาหะมากมาย และ ใช้เวลายาวนานกว่านั้นเมื่อทีมงานต้องคาดเดาเอาจากรายงานอากาศและรูปถ่ายซึ่งป็นขาว–ดำ
เมื่อหัวข้อหลักลงตัวแล้ว ทีมก็เริ่มสร้างส่วนประกอบขั้นสุดท้าย โดยการผสานรูปจำลองเข้ากับภาพถ่ายสถานที่ซึ่งเป็นตัวพื้นหลักละจัดแจงถ่ายภาพตัวประกอบแต่งกายในเสื้อผ้าในช่วงเวลานั้นอย่างระมัดระวัง ‘For A Swede Swerving Through Sicilians,’คือชื่อที่ตั้งสำหรับงานศิลป์ ของ รถ GTO ของ Norinder เราใช้เวลาสามวันขับรถไปรอบๆ Targa Florio circuit ถ่ายรูปจากหลายๆ location จนกระทั่งเราเจอสิ่งที่เหมาะที่สุดกับความคิดในหัวของเรา
‘Since there’s no photo capturing the emotion of the win
from the pit wall, we decided that would be our concept’
– Jan Rambousek
อาจไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยเมื่อคุณรู้ว่าภูมิหลังของ Jan นั้นไม่ใช่ศิลปิน แท้จริงแล้วเข้าเติบโตมาด้วยความปรารถนาอยากเป็นนักออกแบบรถยนตร์ “ เมื่ออายุ17ผมส่งงานออกแบบเข้าประกวดที่จัดขึ้นโดย Peugeot และผมก็ติดหนึ่งในสิบจากผู้ส่งงานเข้าประกวด 3800 คน จากนั้นทุกสิ่งที่ผมทำมักเกี่ยวกับ visual
Aspects ของงานออกแบบรถยนตร์ไม่มากก็น้อย
ส่วนงานที่เป็นอาชีพของเขานั้นเริ่มต้นจากการผลิตโพสเตอร์และโฆษณาให้กับเอเจนซี่และผู้ผลิตต่างๆ แต่ความทะเยอทะยานในการสร้างสรรค์ให้กับลูกค้าของเขามันช่างมีน้อยพอๆกันกับงบประมาณของมัน ดังนั้นเมื่อมีโอกาสที่จะได้ทำสิ่งที่ทำได้สมดังใจกว่ามาปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขาในปี 2014 เขาก็คว้ามันไว้ทันที
ในปีนั้นเมื่อเพื่อนคนหนึ่งริเริ่มโครงการณ์รณรงค์เพื่อที่จะรักษา Masaryk-Ring ที่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในนาม Automotodrom Brno และ Jan ก็ได้ยื่นมือเข้าช่วยด้วยการผลิต series ซึ่งเป็นเรื่องของการแข่งขัน Grand Prix ซึ่งจัดขึ้นที่นั่นในปี 1930 มันถูกจัดแสดงที่ Goodwood Festival of Speed เมื่องานนั้นจบลง Jan รู้ได้ว่าเขาอาจมีธุรกิจที่ทำเงินได้อยู่ในมือของเขาแล้ว
“การทิ้งธุรกิจโฆษณาไว้เบื้องหลังอาจเป็นการเสี่ยงมากแต่ถ้าสามารถทำงานพวกนี้ได้มันก็คุ้มที่จะเสี่ยง” ที่น่าแปลกคือเขาไม่ใช่แฟนที่คลั่งไคล้การแข่งรถ “ผมสนใจในความงดงามของรถแข่งเสียมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์มากกว่าการแข่งขันเสียอีก แต่ความคิดนั้นเปลี่ยนไปหลังจากการไปนั่งชมข้างสนามแข่ง F1” เขายิ้ม “ผมไม่เคยพลาดสัก GP เลยตั้งแต่นั้นมา” ซึ่งไม่ใช่เหตุบังเอิญเลยที่ชิ้นงาน Ferrari ล่าสุดของ Automobilist, Crossing the Line, Raising the Bar คือหนึ่งในการฉลองกับชัยชนะ F1 อันมีชื่อเสียงที่สุด ของ Michael Schumacher ใน Japanese Grand Prix ในปี the 2000 ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่เป็นนักขับของ Ferrari ที่ได้รางวัลนี้นับตั้งแต่ Jody Scheckter คว้ารางวัล Drivers’ Championship ในปี 1979
“ Image นั้นถูกสร้างขึ้นมาร่วมกับ Schumacher’s Keep Fighting Foundation เขาต้องการที่จะสร้างสรรค์ช่วงเวลานั้นขึ้นมาใหม่แต่เนื่องจากไม่มีภาพถ่ายที่จับช่วงเวลาแห่งความรู้สึกได้จาก pit wall เราจึงตกลงใจกันว่านั่นคือ concept ของเรา”
Jan. กล่าว
‘Go looking for inconsistencies between the artwork and
post-race photographs of the car and you’ll soon give up’
งานชิ้นนี้ยากกว่างานที่ทำเกี่ยวกับ GP racing แม้การหาเครื่องเต่งกายให้แก่นักแสดงประกอบฉากนั้นก็พิสูจน์แล้วว่าช่างยากเย็น “ เราจึงจำเป็นต้องทำชุดเลียนแบบขึ้นมาให้ทุกคน” Jan หวนรำลึกความหลัง การติดตามหาข้อมูลที่ต้องการเพื่อสร้างแบบจำลองดิจิตอลกลับเป็นเรื่องโชคดีที่ไม่ได้ยากอย่างที่คิด นั่นเพราะทีมงาน Automobilist สามารถใช้เวลาที่ต้องการกับ F1-2000และได้รับอนุญาตให้ ทำการสแกนรูปแบบสามมิติของมันและนั่นคือครั้งแรกของเรา เรามีความต้องการใช้เทคนิคนี้ในโปรเจคให้มากที่สุดโดยเฉพาะในที่ซึ่งผู้ผลิตไม่สามารถตระเตรียมข้อมูลแบบสามมิติให้กับเราได้ มันช่วยประหยัดเวลาและที่สำคัญที่สุดคือสามารถทำให้เราทำงานได้อย่างถูกต้องแม่นยำในรายละเอียดมากขึ้น
ในการตรวจสอบงานบางชิ้น Jan and co ได้ทำไปโดยขาดเทคนิคการสแกนแบบ 3D มันยากมากเมื่อจะต้องจินตนาการว่า “เหมือนจริงมากกว่านี้เป็นอย่างไร” 250 GTO Silver Stallion Racing For Victory และ Not Sterling Without Stirling ดูเหมือนดูถูกต้องไปทุกรายละเอียด ในขณะที่ 412P gloried in My Childhood Champion นั้นถูกบดบี้แบนไร้รูป ต้องขอบคุณสิ่งที่หลงเหลือจากซาก chassis 0844 ปี 1967 ในการแข่งขัน 24 Hours of Daytona. การดูสลับไปมาระหว่างชิ้นงานและรูปถ่ายจากหลังการแข่งนั้นอาจจะทำให้คุณถอดใจในไม่ช้า
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีกว่านั้นก็คือ มันดูเหมือนว่าเรามีโปรเจคต่อไปของ Ferrari ที่กำลังดำเนินการอยู่“ เรากำลังเฝ้ารอการได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Maranello และผมก็มีความสนใจเป็นส่วนตัวในการสร้างสรรค์ image ของ Mille Miglia ปี 1957 และ 250 TdF” ดังนั้น Automobilist จึงควรเป็นคำเรียกซึ่งเมื่อวิเคราะห์เชิงลึกแล้วเป็นที่ยอมรับได้อย่างสมภาคภูมิ สตูดิโอ CGI ที่ล้ำสมัย ที่หลงไหลคลั่งไคล้ในอดีต, แต่มองไปเบื้องหน้าและย้อนกลับเบื้องหลังในเวลาเดียวกันคือการเสาะแสวงหาการนำประวัติศาสตร์การแข่งรถให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
————————————————————————————————————————————–
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น