PERFECTLY FORMED

สำหรับ Nicolas Hart แล้ว คงจะไม่มีวันที่เขาจะขายเจ้า Dino 245 GT ปี 1974ได้ เขาไม่ได้บอกกับผมตรงๆหรอก แต่ในสายตาของผม รถคันนี้ดูสำคัญกับเขามาก มากกว่ารถคันอื่นๆในคอนเลคชั่นพิเศษของเขา นอกจากเจ้า Dino แล้ว เขายังเป็นเจ้าของ 275 GTB/4 และ F40 แล้วถ้าคิดว่าเขาเป็นคนเลือกแบรนด์ละก็Porsche 911 2.7 RS Touring ของเขาน่าก็น่าจะข้อคัดค้านได้ อ้อ ลูกสาววัย 5 ขวบของเขาเป็นเจ้าของOriginal Fiat 500 ด้วยนะ ของอย่างนี้มันอยู่ในสายเลือด

Dino เป็นรถคลาสสิกคันแรกของ Hart “ผมอยากเป็นเจ้าของ Dino มาโดยตลอดเขากล่าวจริงๆผมอยากได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็น แต่ผมต้องรอถึงปี 2006 เมื่อผม 34 ถึงจะสามารถซื้อได้” “ตอนนั้น ทุกเวอรชั่นราคาใกล้เคียงกันมากจนผมสามารถเลือกเวอรชั่นไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น GTS ‘flares and chairs’ หรือแม้กระทั้ง 206 ‘The latter’ เครื่อง 2 ลิตรของมันหายากกว่า 246 แต่ด้วยแรงบิดที่น้อย มันขับดีสู้เครื่อง 2.4 ลิตรที่มาทีหลังไม่ได้

ถึงแม้ตัวเลือกจะเยอะ แต่เขาก็มีตัวเลือกในใจอยู่แล้วผมคิดว่ารถเปิดประทุนแบบ GTS สวยสู้แบบหลังคาปิดไม่ได้เขากล่าวคือมันก็สวยนะ แต่ผมคิดว่าส่วนหลังคามันไม่เข้ากับทรงของรถนั่นทำให้เหลือแค่ 246 GT ที่ผลิตพวกมาลัยขวาแค่ 488 คัน ยังไม่พอแค่นั้น Hart อยากได้คันที่เป็นสีเงินเท่านั้นผมว่าสีเงินมันแสดงให้เห็นถึงทรวดทรงของรถได้ชัดเจนกว่าสีอื่น เช่นสีแดงในแสงที่เหมาะสม สีเงินสามารถขับรายละเอียดของรถออกมา ทั้งความเว้า,ความนูนและลักษณะต่างๆเราจะเห็นพวกมันได้อย่างเด่นชัด

เขาพูดได้ถูกต้องทีเดียว ผมเคยเห็น Dino มาบ้าง แต่ยังไม่เคยเห็นคันสีเงินมาก่อนตลอดสี่สิบปีที่ผ่านมา จนกระทั้งวันนี้ ผมเพิ่งจะได้เห็นรายละเอียดที่ไม่เคยสังเกตเห็นHart อยุ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ความเข้าใจในตึกและสถาปัตยกรรมมีอิทธิพลต่อการเลือกสะสมรถของเขา เช่น GTO 275 GTB/4 สีน้ำเงินของเขา นอกจากจะเป็นสีที่หายากแล้ว ยังช่วยส่งเสริมทรวดทรงของรถให้เด่นชัดอีกด้วย

ในที่สุด Hart ก็เจอสิ่งที่เขาตามหารถผมจดทะเบียนดั้งเดิมในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1974 ปีสุดท้ายที่พวกมันถูกผลิตเขากล่าวเจ้าของคนแรกคือ Bill Pinckney ประวัติเขาน่าสนใจมาก เขาลงแข่ง Formula Juniors ในปี ’60 กับนักแข่งชื่อดังในสมัยนั้น รวมถึง Richard Attwood (นักแข่งฝีมือดี ผู้คว้าชัยชนะรายการ Le Mans ปี 1970) สุดท้ายพวกเขากลายเป็นเพื่อนสนิทกัน และ Pinckney ได้กลายเป็นพ่อทูนหัวของลูก Attwood”

Nick Hart มีเอกสารต้นบับทุกอย่าง ในแฟ้มหนาที่บรรจุเรื่องราวชีวิตของรถคันนี้ เขามีแม้กระทั้งใบเสร็จต้นฉบับ “Pinckney จ่ายไป 5078.6 ปอนด์ รวมน้ำมันเต็มถัง, พ่นสีเงินอีก 97 ปอนด์ และหน้าต่างไฟฟ้าเป็นออฟชั่นเสริมมันสุดยอดมากที่ Pinckney ต่อราคาได้อีก 200 ปอนด์ถ้าเป็นทุกวันนี้ ลองนึกสภาพคุณไปต่อราคา Ferrari ดูสิ คงไม่แปลกถ้าจะโดนไล่ออกมา

โชคร้าย Pinckneyเสียชีวิตจากเครื่องบินเล็กตก  แต่ภรรยาของเขาก็ยังเก็บรถเอาไว้หลายปี จนกระทั้งขายไปในปี 1997 ให้กับนักสะสม Heath Grey ก่อนที่ผมจะซื้อต่อในปี 2006” Hart อธิบายผมจ่ายไป 80,000 ปอนด์ตามราคาตลาดในตอนนั้นหลังจากนั้นต่อมาราคาสูงขึ้นไปถึง 4 เท่าฟังดูเหมือนเป็นการลงทุนที่ดี แต่ Hart ไม่เคยซื้อรถเพื่อเก็งกำไรเลยเลย ยิ่งเฉพาะคันนี้

รถที่สภาพแทบจะดั้งเดิม เลขตัวถังที่ตรงกันถูกต้อง และสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์ มันคว้าชนะการประกวดงาน1994 Ferrari Owner Club Concoursในคลาสของมันเมื่อครั้งอยุ่ในมือของ Heath Grey และอีกครั้งในการประกวดประเภท Grace and Paceที่งาน2008 Salon Prive ผมไม่ได้ชอบการประกวดประเภทความสวยงามมากนัก แต่ผมก็โล่งใจที่ได้รู้ว่า เจ้า Dino ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำในสิ่งที่ผู้สร้างของมันหวังเอาไว้: โลดแล่นอยู่บนท้องถนน

ปี 2008 ผมขับไป Le Mans Classic เป็นครั้งแรก” Hart กล่าวมันเป็นงานที่สุดยอดมาก การเดินทางไปก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ผมชอบประเทศฝรั่งเศส และการขับรถในชนบท เพราะเช่นนั้น การไปงานนี้เหมือนยิงกระสุนนัดเดียวได้นกถึงสามตัว

ในปี 2009 เจ้า Dino ถูกตกแต่งจนสวยงาม มันทำหน้าที่เป็นรถแต่งงานให้กับ Nick หลังจากได้สลัดริบบิ้นแล้ว มันได้พา Nick กับเจ้าสาว Sarah ข้ามช่องแคบไปยังฝรั่งเศส ผ่านทริปฮันนีมูนกว่า 2000 ไมล์ และ Chateaux นับไม่ถ้วน คงจะไม่แปลกถ้าพวกเขาไม่อยากเห็นเจ้า Dino ไปตกอยู่ในมือของคนอื่น ….

ในปี 2004 ตัวผมเองก็เดินทางไปฮันนีมูนในยุโรป ด้วย 1970 Porsche 911S สีเงิน เราเดินทางไประยะใกล้เคียงกับ Nick ผมจึงสามารถเดาได้เลยว่าในหัวของเขาคิดอะไรอยู่ ถ้ารถเกิดปัญหาขึ้นระหว่างทาง และทริปฮันนีมูนคงจะกลายเป็นการลากรถ พวกเราคงจะโดนทัณฑ์บนจากภรรยาแน่ๆ โชคดีทีทั้ง Porsche ของผมและ Dino ของ Nick ต่างทำหน้าที่ของมันได้ดี

มันอาจจะไม่ใช่เรื่องตลกซะทีเดียวปีต่อมาผมไปร่วมงาน Le Mans Classic อีกครั้ง” Nick กล่าวครั้งนี้ มันไม่ได้ดีนัก เครื่องยนต์เหมือนจะมีปัญหาหนัก สาเหตุย้อนไปในช่วงที่ Pinckney เสียชีวิต รถไม่ได้ถูกขับเลยจนกระทั้งขายไปในปี 1997 แน่นอนว่ามันไม่ดีสำหรับเครื่องจักรที่จะหยุดทำงานเป็นรถระยะเวลานาน นั้นรวมถึงเจ้า Dino ด้วย 

ผมตัดสินใจว่า ในเมื่อเครื่องยนต์จะต้องแยกชิ้นส่วนเพื่อที่จะฟื้นฟูสภาพแล้ว ก็ควรที่จะทำในส่วนอื่นๆด้วย เพื่อนจะคืนสภาพให้มันสมบูรณ์ที่สุด มันเป็นงานที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนมาก ผมใช้เวลาถึง 2 ปี กับเงินจำนวนมากพอสมควร แน่นอนว่า ลูกสูบใหม่ รวมถึงส่วนที่เสื่อมสภาพเช่น ลูกปืนแบริ่ง ถูกเปลื่ยนลงไปในเครื่องยนต์ 

นอกจากจะไม่ถูกกับการจอดไว้กับที่แล้ว เครื่องยนต์ของเจ้า Dino จะทำงานได้เต็มที่ก็เมื่อมันได้อุณหภูมิที่เหมาะสม ตอนที่พวกเราเริ่มขับตามถนน Berkshire ใกล้บ้านของ Hart เพื่อที่จะหามุมถ่ายรูปนั้น เครื่องยนต์มีอาการสะดุดหลายครั้ง การเข้าเกียร์ก็ไม่ลื่นไหลมากนัก ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากที่เครื่องอุ่นแล้ว อาการทุกอย่างได้หายไปอย่างสิ้นเชิง

ในขณะที่ Hart สาละวนอยู่กับการถ่ายรูปและผมกำลังยืนมองอยู่ริมถนน นั่นเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมตกหลุมรักเสียงเครื่อง V6 และทรวดทรงของเจ้า Dinoผมเห็นรถรุ่นนี้ครั้งแรกในช่วงปี 70 ตอนที่ผมกำลังเดินไปโรงเรียน มันป็น Dino คันสีขาว สีขาวเหมาะกับมันมาก แต่ยังไง Hart ก็พูดถูก ผมเห็นด้วยว่าสีเงินคือสีที่ดีที่สุดสำหรับมัน ถึงแม้ว่าผมเป็นคนไม่ชอบรถสีเงินก็เถอะ

ตอนที่ Hart ซื้อมา รถวิ่งไปประมาณ 24,000 ไมล์ จนถึงตอนนี้ มันได้ทะลุ 31,000 ไมล์ไปแล้วมันเป็นรถที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงเขาอธิบายและมันเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานในปัจจุบันทั้งมันยังมีขนาดเล็ก คุณจะชอบขนาดที่เล็กของมัน เมื่อคุณได้ขับ F40 ที่ทั้งใหญ่และมีด้านหลังกว้างกว่าด้านหน้า

Ferrari ทั้งสามคันของ Hart นั้นน่าสนใจตรงที่พวกมันไม่มีอะไรที่คล้ายกันเลยนั่นคือเหตุผลที่ผมรักพวกมันมากเขากล่าว “275 GTB/4 คือคลาสสิก Colombo V12 ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีอะไรเหนือกว่า ส่วน F40 เป็นเครื่อง Turbocharged ซึ่งทำให้มันอยู่ในอีกประเภท ท้ายสุดเจ้า Dino มันเป็นคนละเรื่องกับสองคันแรกเลย ทั้งการออกแบบ และคาแรคเตอร์แล้วถ้าต้องเลือกอีกคันเข้าไปในคอเลคชั่นหละ? “แน่นอนว่าเป็น 458 Speciale” เขาตอบอย่างไม่ลังเลสั้นๆเลย มันคือรถที่ขึ้นไปนั่งแล้วขับออกไปได้เลย ทั้งยังง่ายกว่าที่จะดูแลด้วย

Nicholas Hart เป็นนักสะสมที่มีอุปนิสัยที่ผมประทับใจ เขามีความใส่ใจในรถอย่างลึกซึ้ง ไม่มีอะไรจะอธิบายได้ดีไปกว่าสมุดสีน้ำเงินเล่มเล็กๆนี้ มันคือ Log book ของเจ้า Dinoมันเก็บข้อมูลต่างๆ รายละเอียดของทุกทริป, ระยะทางและภูมิประเทศ และคอลั่มสุดท้ายสำหรับโน้ต ถ้ากระจกไฟฟ้าเริ่มที่จะฝืด มันก็เขียนไว้ว่าจะไว้ซ่อมในการเซอร์วิสครั้งต่อไป(รถคันนี้ถูกเซอร์วิสโดยผู้เชี่ยวชาญเก่าแก่ Bob Houghton)Hart อาจจะเขินเล็กน้อย สำหรับความชื่นชมของผมต่อการเก็บบันทึกข้อมูลของเขาจริงๆแล้ว รถทุกคันมีบันทึกแบบนี้เขาสารภาพรวมถึง Fiat 500 คันจิ๋วของลูกสาวผมด้วย

ก่อนที่พวกเราจะกลับ ผมถามคำถามเอาตัวรอดกับเขาคุณจะเก็บ Ferrari คันไหนไว้ ถ้าคุณเลือกได้แค่คันเดียวเขาครุ่นคิดซักครู่ คำตอบคือเจ้า Dino แน่นอนมันมีเรื่องความผูกพัน เพราะว่าเป็นรถที่เขาและภรรยาใช้ในงานแต่ง และทริปฮันนีมูน แต่ไม่ใช่แค่นั้น ความชอบในความเป็นมาของมัน, สเปคที่เขาใฝ่ฝัน และการดูแลคืนสภาพให้กับมันทุกๆอย่าง คือเหตุผลที่เขาไม่สามารถที่จะแยกกับรถคันนี้ได้

ถ้าผมมีสามคันนี้เช่นเดียวกับเขา ผมก็คงตัดสินใจไม่ต่างกัน สำหรับผมเจ้า Dino อาจจะเป็นรถสำหรับขับบนถนน ที่สวยที่สุดที่เคยมี มันอาจจะไม่โผงพางอลังการเหมือน Lamborghini Miura มันกลับอ่อนโยน และปราณีต แต่เหนือสิ่งอื่นใด มิติ และประสิทธิภาพของมัน ถูกออกแบบมาให้เข้ากันได้อย่างไร้ที่ติกับสภาพการขับขี่ในปัจจุบัน

ถ้า Hart ยังเป็นเจ้าของอยู่เช่นนี้ ผมว่าเจ้า Dino คงจะได้เที่ยวฝรั่งเศสอีกหลายไมล์ผมหลงรักการขับรถคันนี้ ผมมักพามันไปงาน Goodwood breakfast meetingเจอเพื่อนๆ และเจ้าของ Dino คนอื่นๆ เพื่อออกไป Road Trip” เขาปิดท้าย

บางทีวันหนึ่ง เขาอาจจะต้องซื้อสมุดสีน้ำเงินให้เจ้า Dino อีกเล่มก็เป็นได้ 

Dino 246 GT

เครื่องยนต์ V6, 2418 ซีซี กำลังสูงสุด 195 แรงม้า ที่ 7600รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 166 ปอนด์ฟุต ที่ 5500รอบต่อนาทีระบบส่งกำลัง เกียร์ธรรมดา5-สปีดขับเคลื่อนล้อหลัง ช่วงล่าง หน้าและหลัง: ปีกนกคู่ คอยล์สปริง โช้คอัพแบบ Telescopic และกันโครง ระบบบังคับเลี้ยว Rack and pinion เบรค ดิสก์เบรคระบายอากาศ 274 มม. ด้านหน้า,  240 มม. ด้านหลัง

ล้อ 6.5 X 14 นิ้ว หน้าและหลัง ยาง 205/70 VR14 หน้าและหลัง น้ำหนัก 1080 กิโลกรัม (ไม่รวมของเหลว)น้ำหนักต่อแรงม้า 183 แรงม้าต่อตัน (ไม่รวมของเหลว)0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง ใน 7.1 วินาที(ตามสเปกโรงงาน)ความเร็วสูงสุด146ไมล์ต่อชั่วโมง (ตามสเปกโรงงาน)ราคา 4964 ปอนด์ ในปี 1974 (คิดเป็น 55,000 ปอนด์ ตอนนี้)ราคาปัจจุบัน มากกว่า 300,000 ปอนด์

Share

ใส่ความเห็น